สงครามยูเครนกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก หลังการสู้รบที่แนวรบทางภาคตะวันออกและภาคใต้เข้าสู่สภาวะชะงักงัน โดยที่ปฏิบัติการโต้กลับช่วงฤดูร้อนไม่ได้นำมาซึ่งผลลัพธ์ตามที่หลายฝ่ายคาดหวังไว้

ขณะที่ชาติพันธมิตรคนสำคัญอย่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปยังคงล่าช้าในการส่งความช่วยเหลือด้านอาวุธยุทโธปกรณ์เพิ่มเติม ท่ามกลางสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงเช่นนี้ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า ยูเครนจะเพลี่ยงพล้ำจนรัสเซียกลายเป็นฝ่ายได้เปรียบในสนามรบหรือไม่ หากการผ่านความช่วยเหลือของชาติพันธมิตรยังคงชะลอออกไป

รัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มคาร์คีฟต่อเนื่อง-บ้านเรือนเสียหายหนัก!

ยูเครนร้องชาติตะวันตกต่อต้านรัสเซีย ด้านปูตินเตือนยูเครนอย่าดื้อดึง

ล่าสุด ทหารยูเครนที่ประจำการอยู่ที่แนวรบทางภาคตะวันออกมาเปิดเผยว่าเริ่มประสบปัญหาขาดกระสุนในการต้านทานการบุกของรัสเซียแล้ว ขณะที่ผู้บัญชาการกองกำลังภาคพื้นดินยูเครนระบุว่ากองทัพยูเครนได้เปลี่ยนยุทธศาสตร์แนวรบไปเป็นการ ‘ตั้งรับเชิงรุก’ หรือ active defence

เมื่อวานนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์สได้สัมภาษณ์ทหารยูเครนจากกองพันจู่โจมแยกที่ 92 ที่ประจำการอยู่ในแนวรบที่บัคมุตทางภาคตะวันออก เกี่ยวกับสถานการณ์การสู้รบในขณะนี้

ทหารรายหนึ่งได้เปิดเผยว่า ยูเครนได้ปรับยุทธศาสตร์ไปเป็นการตั้งรับแล้วเนื่องจากสภาพอากาศในช่วงฤดูหนาว ขณะที่ฝ่ายรัสเซียพยายามบุกโจมตีมาอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายหลักของกองพันขณะนี้ คือการยิงตอบโต้ใส่อาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ของรัสเซียเพื่อตัดกำลัง เช่น ปืนใหญ่ รถถัง หรือกระทั่งโจมตีตอบโต้ทหารราบที่เคลื่อนพลเข้ามาปฏิบัติการบุกโจมตี

สอดคล้องกับที่ พันเอก โอเล็กซานเดอร์ ซีร์สกี ผู้บัญชาการกองกำลังภาคพื้นดินยูเครนได้ออกมาให้สัมภาษณ์พิเศษต่อสำนักข่าวรอยเตอร์สเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า กองทัพยูเครนได้หันไปใช้ยุทธศาสตร์ ‘ตั้งรับเชิงรุก’ หรือ active defence แล้ว

นั่นคือ การรักษาตำแหน่งที่มั่นตลอดแนวรบตั้งแต่แคว้นคาร์คีฟทางตะวันออกเฉียงเหนือไปจนถึงแคว้นเคอร์ซอนทางภาคใต้ โดยป้องกันไม่ให้กองทัพรัสเซียสามารถบุกโจมตีและขยับแนวรบได้ และพยายามสร้างความสูญเสียและบ่อนทำลายกำลังการรบของรัสเซียให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้วิธีสู้รบที่ยูเครนใช้คือเน้นไปที่การตอบโต้ขนาดเล็ก ส่วนการเข้าปะทะกันระหว่างสองฝ่ายนั้นลดลง เนื่องจากต้องการรักษาระดับปริมาณกระสุนในคลังและกำลังพล

ล่าสุด ทางการยูเครนระบุว่า สถานการณ์การสู้รบโดยเฉพาะที่เมืองทางภาคตะวันออกอย่างบัคมุต อัฟดีฟกา และลีมันดุเดือดขึ้น หลังรัสเซียยกระดับปฏิบัติการโจมตีอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง หลังพยายามบุกโจมตีและรุกคืบบริเวณภาคตะวันออกของยูเครนมาตั้งแต่เดือนตุลาคมเมื่อปีที่แล้ว โดยในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีรายงานการปะทะร่วม 98 ครั้ง เป็นจำนวนที่มากกว่าช่วงสัปดาห์ที่แล้วกว่าครึ่ง

ทว่า ทหารที่แนวรบกำลังเผชิญต่อความท้าทายในการตั้งรับป้องกัน พาฟโล นายทหารประจำกองพันจู่โจมแยกที่ 92 รายหนึ่งเปิดเผยว่า ฝ่ายกองทัพยูเครนไม่สามารถรักษาระดับการยิงให้เป็นไปอย่างเข้มข้นได้ เนื่องจากมีกระสุนไม่เพียงพอ ขณะเดียวกัน กองทัพรัสเซียก็พยายามรุกคืบเพื่อขยับแนวรบเพิ่ม

นายทหารรายนี้ยังระบุอีกว่า หากจะสามารถรุกคืบเพื่อขยับแนวรบและยึดคืนพื้นที่เพิ่มได้ กองทัพยูเครนต้องได้รับอาวุธยุทโธปกรณ์และกระสุนเพิ่มเติมทันที ไม่เช่นนั้น รัสเซียจะใช้จุดอ่อนที่ยูเครนขาดทรัพยากรสู้รบกดดันยูเครนได้ง่ายขึ้น

สถานการณ์ยากลำบากบริเวณแนวรบทางภาคตะวันออก เกิดขึ้นในวันที่ชาติพันธมิตรรายใหญ่อย่างสหรัฐฯ ยังไม่สามารถอนุมัติความช่วยเหลือทางการทหารเพิ่มเติมฉบับใหม่ให้แก่ยูเครนได้เป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้ว เนื่องจากข้อตกลงที่ไม่ลงรอยระหว่างพรรครีพับลิกันและเดโมแครต เมื่อวานนี้ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐฯ ได้เชิญสมาชิกระดับสูงในสภาคองเกรสจากทั้งสองพรรคเพื่อโน้มน้าวให้เร่งผ่านร่างงบประมาณความช่วยเหลือฉบับดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ล่าสุดยังไม่มีสัญญาณบวกออกมาจากฝ่ายรีพับลิกัน

ทำเนียบขาวเร่งสภาคองเกรสผ่านความช่วยเหลือยูเครน

เมื่อวานนี้ ระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อที่ทำเนียบขาว จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ได้ตอบคำถามถึงความคืบหน้าในการผ่านร่างความช่วยเหลือยูเครนเพิ่มเติม หลังจากที่ประธานาธิบดีไบเดนได้เชิญสมาชิกระดับสูงของสภาคองเกรสเข้าหารือที่ทำเนียบขาว

โดยระบุว่า ได้ส่งสัญญาณเตือนต่อสมาชิกสภาถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ให้แก่ยูเครน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังทำเนียบขาวได้ประกาศแพ็กเกจความช่วยเหลือสุดท้ายที่สามารถอนุมัติได้ไปแล้วเมื่อปลายปีที่ผ่านมา และการส่งมอบอาวุธได้หยุดชะงักลงแล้ว

 สงครามยูเครนเริ่มลำบาก! ทหารในแนวรบขาดกระสุนต้านรัสเซีย

ในรายละเอียดการหารือ แถลงการณ์จากทำเนียบขาวระบุว่า ประธานาธิบดีไบเดนได้เน้นย้ำถึงผลกระทบทางยุทธศาสตร์ที่จะตามมา หากสภาคองเกรสล้มเหลวที่จะสนับสนุนยูเครนในการทำสงครามต้านทานรัสเซียต่อ

นั่นคือ จะส่งผลให้ความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ พันธมิตรนาโต และโลกเสรีตกอยู่ในอันตราย ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีไบเดนก็ได้แสดงท่าทีที่ชัดเจนว่า ต้องมีมาตรการที่สามารถแก้ไขปัญหาความมั่นคงชายแดนและผู้อพยพได้ ซึ่งนี่เป็นประเด็นที่สมาชิกสภาฝ่ายรีพับลิกันยกขึ้นมาต่อรองคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง อันดับ1

เป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้ว ที่ร่างงบประมาณสนับสนุนยูเครนมูลค่า 6.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐที่ทำเนียบขาวยื่นเสนอต่อสภาคองเกรสตกอยู่ในสภาวะชะงักงันเนื่องจากจาก ส.ว.พรรครีพับลิกันโหวตคว่ำไป เพื่อต่อรองให้พรรคเดโมแครตยอมปรับรายละเอียดนโยบายความมั่นคงชายแดนที่ผนวกอยู่ในร่างฉบับเดียวกันให้เข้มงวดขึ้น

หลังการประชุม ชัค ชูเมอร์ ผู้นำฝ่ายเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐฯ ซึ่งสังกัดพรรคเดโมแครตระบุต่อผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ใกล้จะตกลงร่างงบที่เป็นที่พอใจของทั้งสองฝ่ายได้แล้ว และคาดว่าร่างความช่วยเหลือเพิ่มเติมฉบับนี้จะสามารถผ่านออกมาได้ ส่วน มิตช์ แมคคอนเนล ผู้นำฝ่ายเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกันระบุว่า วุฒิสภาน่าจะสามารถลงคะแนนเสียง ผ่านร่างดังกล่าวได้ในช่วงสัปดาห์หน้า

อย่างไรก็ตาม ชะตากรรมของร่างความช่วยเหลือเพิ่มเติมให้แก่ยูเครนอาจยังไม่แน่นอนเมื่อส่งต่อไปยังสภาผู้แทนราษฎร โดย ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรครีพับลิกัน ออกมาส่งสัญญาณอย่างต่อเนื่องว่า สมาชิกสภาฝ่ายรีพับลิกันจะไม่ผ่านร่างนี้ หากยังไม่มีการปรับนโยบายความมั่นคงชายแดนและผู้อพยพให้เข้มงวดตามที่เสนอไป

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มักระบุว่าไม่ได้ต่อต้านการส่งความช่วยเหลือให้แก่ยูเครน และมองว่าการสนับสนุนยูเครนเป็นเรื่องสำคัญ แต่ทำเนียบขาวต้องสามารถการันตีได้ว่าการช่วยเหลือยูเครนต้องเป็นไปอย่างมียุทธศาสตร์และรับผิดชอบต่อภาษีของชาวอเมริกัน ที่สำคัญที่สุดคือ ประเด็นความมั่นคงชายแดนและผู้อพยพ

อย่างไรก็ตาม แม้จะยังไม่เป็นที่แน่นอนว่าสหรัฐฯ จะสามารถผ่านร่างความช่วยเหลือเพิ่มเติมให้แก่ยูเครนได้หรือไม่ ขณะที่หลายฝ่ายกังวลว่าชาติพันธมิตรเริ่มอ่อนล้าในการสนับสนุนยูเครนแล้ว แต่ดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนได้ระบุระหว่างเข้าร่วมประชุม World Economic Forum เมื่อวานนี้ว่า การสนับสนุนจากชาติพันธมิตรยังคงแน่วแน่ไม่เปลี่ยนแปลง

ไม่ว่าจะเป็นความช่วยเหลือด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ ที่ริชี ซูนัค นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรเพิ่งประกาศมอบให้แก่ยูเครนมูลค่า 3.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา

ขณะที่เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ก็เตรียมจะประกาศข้อตกลงด้านความมั่งคงให้แก่ยูเครนระหว่างการเยือนกรุงเคียฟที่จะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยหนึ่งในอาวุธที่ฝรั่งเศสจะมอบให้คือ ขีปนาวุธพิสัยไกล SCALP ซึ่งเทียบเท่าขีปนาวุธสตอร์ม แชโดว์ ของสหราชอาณาจักร เป็นจำนวน 40 ลูก

ส่วนพันธมิตรอีกรายอย่างสหภาพยุโรปที่เตรียมจะผ่านงบประมาณความช่วยเหลือยูเครนมูลค่า 5.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐอีกครั้งในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า สำนักข่าว POLITICO รายงานโดยอ้างอิงเจ้าหน้าที่สหภาพยุโรปที่ไม่เปิดเผยตัวตนว่า ฮังการีอาจกลับลำมติคัดค้านและยอมผ่านความช่วยเหลือแล้ว ขณะเดียวกัน ฝ่ายรัสเซียก็เตรียมลงนามในข้อตกลงกับอิหร่าน ซึ่งอาจรวมถึงความร่วมมือด้านอาวุธด้วย

รัสเซียเตรียมปิดดีลข้อตกลงอาวุธกับอิหร่าน

เมื่อวานนี้ มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย ได้ออกมาเปิดเผยว่าข้อตกลงแบบทวีภาคีระหว่างรัสเซียและอิหร่านใกล้บรรลุแล้ว โดยให้รายละเอียดเพิ่มเติมเพียงแค่ว่า ข้อตกลงฉบับนี้จะครอบคลุมในทุกมิติ และจะทำให้ความสัมพันธ์ในฐานะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างทั้งสองฝ่ายเข้มแข็งขึ้น

อย่างไรก็ดี มีกระแสข่าวว่าข้อตกลงนี้อาจรวมถึงการซื้อขายอาวุธจากอิหร่านด้วย ขณะที่รัฐบาลรัสเซียเคยระบุไว้เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า ทั้งสองฝ่ายกระชับความสัมพันธ์ด้านการทหารระหว่างกันด้วย ทั้งนี้ ล่าสุดเมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่ไม่เปิดเผยตัวตนได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลข่าวกรองว่า รัสเซียกำลังเดินหน้าเจรจาขอซื้อขีปนาวุธนำวิถีจากอิหร่าน

เปิดรายชื่อผู้เสียชีวิต เหตุโรงงานพลุระเบิด สุพรรณบุรี

ศาลสั่ง “ศักดิ์สยาม” พ้นรมต.เซ่นปมหุ้น หจก.บุรีเจริญฯ

“ตรุษจีน 2567” วันจ่าย-วันไหว้-วันเที่ยว ตรงกับวันไหน ทำไมแต่ละปีไม่ตรงกัน

By admin