“นนกุล” ยก “แอฟ” มีครบในคนเดียว ความรักที่แฮปปี้และถูกจังหวะ

“นนกุล” ขำๆ ถูกยกสายเอ็นฯ กองซีรีส์ THE OUTING เผยถึงฉากเลิฟซีน

ช่วงชีวิตที่ลงล็อกและถูกจังหวะ “นนกุล-ชานน สันตินธรกุล” พระเอกชื่อดังที่นาทีนี้กราฟพุ่งสุดๆ ทั้งเรื่องงานและความรักกับนางเอกรุ่นพี่ “แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ” ที่ปิ๊งรักหลังโคจรมาประคู่กันในละครจากคู่จิ้นคู่คู่จริง

ทีม “พีพีทีวี” มีโอกาสได้พูดคุยกับ “นนกุล” ถึงเรื่องราวของเขา ประสบการณ์ทำงานที่ผ่านจุดเปลี่ยนมานับครั้งไม่ถ้วนกว่าจะมาเป็นนักแสดงคุณภาพ แต่ยังมีจุดมุ่งหมายที่เขาอยากเดินไปให้ถึง เช่นเดียวกับความรักอีกหนึ่งสำคัญที่มีเป้ายหมาย

จังหวะชีวิตช่วงนี้ดีมาก ชีวิตพุ่ง?

“(ยิ้ม) ครับ พุ่งไม่พุ่งไม่รู้ รู้แต่ว่าแฮปปี้มากๆ ครับถ้าถามว่าช่วงนี้เป็นช่วงจุดเปลี่ยนอีกครั้งในชีวิตไหมก็อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้ เรื่องงานผมก็ไม่แน่ใจคำว่า ‘ลงตัว’ มันจะนิยามว่ายังไงดี แต่ว่าพอเป็นเราที่ใช้ชีวิต ณ ขณะที่เป็นอยู่ ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกอะไรมากมายนะ โอเค ยอดไลก์มันอาจจะมากขึ้นช่วงนี้ คอมเมนต์อาจจะมากขึ้นช่วงนี้ แต่ชีวิตประจำวันเราเหมือนเดิม แต่ถ้าถามความจริงจังในการทำงาน ส่วนตัวผมมองว่าผมจริงจังกับงานมาเรื่อยๆ อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าช่วงนี้ผมได้รับโอกาสเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เลยทำให้อาจจะมีภาพออกไปให้คนเห็นมากขึ้น ว่าเราจริงจังกับการทำงานมากขึ้น แต่จริงๆ แล้วเราก็คงต้องพูดว่าก็จริงจังมาเรื่อยๆ อยู่แล้วครับ”

การรับมือกับการทำงานในวงการ มีบางจังหวะที่มันอาจจะไม่ใช่จังหวะของเรา?

“ผมมองว่าตั้งแต่ที่เข้าวงการมาวันแรกเลย ก็มีรุ่นพี่นักแสดงหลายคนที่ให้สัมภาษณ์ใดๆ ก็แล้วแต่เราก็ดูทัศนคติของเขาว่าคนไหนที่อยู่ได้นานแล้วเขาคิดยังไงและทุกๆ คนก็จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอะไรมีมามันก็ต้องมีไป มีขึ้นก็ต้องมีลง เป็นธรรมดาของช่วงชีวิตอยู่แล้ว เราไปกำหนดมันไม่ได้ เราไปบังคับมันไม่ได้ เราไม่ต้องไปซีเรียสกับมัน ขอแค่เราตั้งใจทำให้ดีที่สุดในหน้าที่การงานของเราและเมื่อคนมองเห็นเรา สิ่งที่เราอยากให้เขารู้เกี่ยวกับเราก็คือเราทำอาชีพนี้แล้วเรามีความสามารถนะ นั่นเป็นภาพที่เราอยากให้เขามองเห็นเรา จะดังไม่ดังไม่เป็นไร ขอแค่เขาได้ยินชื่อเราเขาได้ยินสิ่งไหนบ้าง แต่ขอให้เป็นสิ่งดีๆ แล้วกันครับ (ยิ้ม)”

มีการเตรียมตัวในการใช้ชีวิตในวงการ?

“เตรียมตัวไหมเหรอครับ ต้องบอกว่าพอครอบครัวเราไม่ได้มีแบล็กกราวด์ในวงการบันเทิงเลย ก้าวแรกที่เราเข้ามาก็มีแต่ความฝันเท่านั้นเลย ความสามารถเราก็ไม่ได้โดดเด่นกว่าชาวบ้านเขาในช่วงแรกที่เราเข้ามา มันก็อาศัยความฝันเป็นที่ตั้งแล้วก็ค่อยๆ ทำทุกสิ่งให้มันใกล้ความฝันนั้นมากขึ้น ก็คือนักแสดงระดับโลก ถามว่าฝันใกล้เป็นจริงหรือยัง โห! ยังอีกยาวไกลครับ แต่ผมว่าผมเกิดมาในยุคสมัยที่ทั้งโชคร้ายและโชคดี คือโชคร้ายในแง่ที่ว่าตอนนี้การแข่งขันมันสูงมาก เพราะว่ามันเป็นกันได้ง่ายขึ้นมาก แต่โชคดีที่ว่าอุตสาหกรรมทั่วโลกบางทีเราไม่ต้องไปหาเขา เขามาหาเราเอง แต่ไม่ได้หมายความว่าเราทำได้ทันทีนะ เราก็ต้องทำตัวให้มีความสามารถ ฝีมือมากพอ แล้วเมื่อมีโอกาสเข้ามาเขาจะได้มองเห็นเรา แล้วเขาจะได้ให้เราไปทำงาน”

“ฉลาดเกมส์โกง” พิสูจน์ฝีมือจากก้าวเข้ามาด้วยฝัน สู่วันเป็นที่ยอมรับ?

“ต้องบอกว่าผมโชคดีมากๆ ที่ได้เล่นเรื่องนั้น แล้วก็โชคดีมากๆ ที่ผู้กำกับ “พี่บาส” (นัฐวุฒิ พูนพิริยะ) ไม่ยอมแพ้กับผม มันจะมีซีนนึงที่เป็นซีนดราม่าที่ต่อย “เจมส์” (ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ) ซีนนั้นผมจำได้ว่าประมาณ 13 เทค ถ้าเป็นสมัยนี้ โอเค ผมอาจจะมีประสบการณ์มากขึ้น เทคอาจจะไม่เยอะเท่าสมัยก่อนแล้ว แต่ผมรู้สึกว่าเราโชคดีมาก ผมไม่รู้ถ้าเป็นผู้กำกับคนอื่นเขาอาจจะยอมแพ้แล้ว ปล่อยผ่านไปแล้ว เพราะสุดท้ายคนที่จะโดนด่าคือผมคนเดียว บางทีการที่เขาสละเวลาให้เราเล่นอีกเทคๆมันเสียระบบเขามากเลยนะ แต่ว่าเขาก็เลือกที่จะให้โอกาสเราอีกเรื่อยๆ จนมันได้จริงๆ แล้วถ้าวันนั้นผมเล่นไม่ได้ถึงขนาดนั้น วันนี้ผมจะอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน ก้เป็นจุดความสำเร็จแรกในแง่จิตใจต่อหน้าที่การงานของผม เพราะว่าพอเล่นเรื่องนั้นเสร็จ ได้รับโอกาสอีกมากมายแล้วก็ได้รางวัลนักแสดงนำชายด้วย อันนี้เป็นสิ่งที่เราฟูลฟีลมากในฐานนักแสดงคนนึง

แต่ก็ยังไม่ปลดล็อกความกดดันเรื่องการแสดง ทุกวันนี้เราก็ยังต้องคีฟออน คือผมมองว่าอาชีพนักแสดงมันเหมือนการเป็นนักกีฬาครับ เหมือนนักร้อง เหมือนทุกอาชีพเลย คือถ้ามันไม่ได้ทำเรื่อยๆ ทำบ่อยๆ ทำซ้ำๆ มันก็จะเริ่มติดสนิม มันก็จะเริ่มไม่เก่ง สุดท้ายแล้วมันก็ต้องเรียนแอ๊คติ้งเรื่อยๆ ฝึกฝนตัวเองเรื่อยๆ เหมือนนักมวยอ่ะครับ ก็ต้องฝึกต่อยเรื่อยๆ ถ้าวันนึงคุณเลิกฟิตขึ้นมาไปขึ้นสังเวียนคุณก็จะหอบเหนื่อยง่าย อารมณ์เดียวกันเลยครับ”

จากวันที่เราเข้ามาด้วยความฝัน จนวันนี้คิดว่าเราวิ่งตามความฝันได้ไกลขนาดไหนแล้ว?

“โห..ส่วนตัวผมมองว่าเพิ่ง 30-40 เปอร์เซ็นเองครับ เพราะโกลด์เรามันแบบ คือพูดบ่อยๆ มันก็รู้สึกกระดากคอ (หัวเราะ) แต่ความฝันเราเป็นนักแสดงระดับโลกจริงๆ ทีนี้สุดท้ายแล้ว พอเรามามองความเป็นจริงเราก็ต้องรู้ตัวเองว่าศักยภาพเราตอนนี้มันอยู่ประมาณไหน ซึ่งส่วนตัวผมก็มองว่า 30-40 เปอร์เซ็น (อยากเดินไปให้ถึงตรงนั้น?) แน่นอนครับผมมองว่าเราต้องมองความเป็นจริงที่ว่าสุดท้ายต่อให้วันนี้ เราได้งานฮอลลีวูดเรื่องนึง แต่ว่าเราไม่ใช่ตัวหลัก เป็นตัวเอ็กซ์ตร้า เป็นตัวซัพพอร์ต อันนี้ก็ยังไม่ถือว่าฟูลฟีล เพราะสุดท้ายแล้วเราต้องดูด้วยว่ามันยั่งยืนหรือเปล่า อย่างทุกวันนี้ผมทำงานในวงการบันเทิงไทย ผมก็พูดได้ประมาณนึงว่า เรามั่นใจว่างานคงจะไม่ขาดนักหรอก แต่ถ้าเราพูดถึงงานต่างประเทศทุกวันนี้เราก็ไม่กล้าพูดเต็มปากว่าเราจะมีเรื่อยๆ

ส่งเดโมไปแคสต์ยังไม่เคยทำครับ สุดท้ายแล้วอย่างที่บอกครับว่าเรา พอยุคสมัยมันเปลี่ยนไปเราก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย คือไม่ได้บอกว่าการส่งเดโมเป็นสิ่งไม่ดี แต่ว่ามันเป็นการเลือกเส้นทางมากกว่าว่าจะไปทางไหนกันแน่ เช่นว่า เราอยากจะไป เราอยากจะทิ้งทุกอย่างตรงนี้แล้วไปตายเอาดาบหน้าตรงนั้น หรือ เราอยากจะตั้งใจทำตรงนี้ให้มันแข็งแรงแล้ววันนึงเขาอาจจะมองมาเห็นเรา แล้วเราจะได้โอกาสในการทำงานคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

อย่างล่าสุดที่ผมเห็นตัวอย่างที่ชัดเจนมากๆ ก็ ‘พี่ญาญ่า’ (อุรัสยา เสปอร์บันด์) ที่เขาได้เล่นหนัง อันนี้เป็นหนึ่งตัวอย่างที่้เรารู้สึกว่าถ้าเราทำให้แข็งแรงให้ดีพอแล้วใช้โอกาสให้ถูกที่ถูกทาง บางทีความฝันเรามันไม่ต้องวิ่งเข้าหาอย่างเดียว บางทีปล่อยให้มันวิ่งมาหาเราบ้างก็ได้เหมือนกัน ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงทุกอย่างทิ้งไว้ไปตายเอาดาบหน้า ไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น แต่ว่าพอเราโตขึ้นเรื่อยๆ ความรับผิดชอบในชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ มันต้องมองอย่างมีเหตุมีผลว่าถ้าทิ้งตรงนี้ไป แล้วรายได้ทุกอย่างที่เราให้ครอบครัวล่ะ หรือว่าอะไรทุกๆ อย่างครับ มันต้องชั่งน้ำหนักให้ดีๆ ถ้าเกิดสิ่งที่เราวัดแล้วว่ามาทางนี้มันก็มีโอกาสไปทางนั้นได้อยู่ดี แล้วเราจะทิ้งทางนี้ทำไม กลับกันถ้าเราทิ้งไปหมด เส้นทางนี้เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าถ้าไปแล้วมันจะเป็นยังไง คือผมก็คิดเยอะครับ ยิ่งอายุเยอะขึ้นยิ่งคิดเยอะขึ้นเรื่อยๆ ครับ”

ตอนนี้เป็นจังหวะที่ “นนกุล” แฮปปี้ทุกอย่างทั้งงานและความรัก?

 จังหวะชีวิต “นนกุล ชานน” บาลานซ์งานและความรัก 2 เป้าหมายที่ต้องไปให้ถึง

“แฮปปี้ที่สุด แฮปปี้มากๆ ครับ (ยิ้ม)”

มุมมองความรักเปลี่ยนไปเยอะไหมจากเมื่อก่อน?

“ผมว่าไม่เคยเปลี่ยนนะ ความสบายใจคืออันดับหนึ่งเลย จะสวย น่ารัก นิสัยดีมากๆ แค่ไหนด้วยนะ แต่ถ้าเกิดคนๆ นั้นทำให้เราสบายใจไม่ได้ แต่บังเอิญว่าพี่แอฟสวยด้วย น่ารักด้วย แล้วก็เป็นที่สบายใจของผมด้วย (ครบในคนเดียว?) ครับ (ยิ้ม)”

ตอนนี้จังหวะความรักและจังหวะชีวิตของเรามาด้วยดีทั้งคู่ บาลานซ์ยังไงให้ทั้งสองจังหวะเดินไปด้วยกัน?

“จริงๆ มันคงไม่มีคำตอบตายตัวครับ เพราะสุดท้ายก็ต้องหาทางร่วมกันไปเรื่อยๆ บางวันอาจจะมีไม่เข้าใจกันบ้าง แต่ก็ต้องค่อยๆ ปรับกันไป สุดท้ายแล้วการบาลานซ์ที่ดีที่สุดก็คือการคุยกัน เพราะเรื่องการงานเป็นพาร์ทที่เราคุยกับทางครอบครัว ช่วยกันรับงาน คุยกันเสร็จปุ๊ป เราถึงมาวางแผนกับพี่เขาว่าอาทิตย์นี้เราเจอกันได้กี่วัน ถ้าพี่เขาโอเคก็ตามนั้น แต่พี่เขาอยากเจอมากขึ้นหรือผมอยากเจอมากขึ้น ก็มาคุยกัน สุดท้ายผมว่าพี่เขาเข้าใจ ผมก็พร้อมเข้าใจพี่เขา”

ถูกลุ้นความรักของเราในทุกสเต็ป ตอนนี้ก็ลุ้นเรียกแฟนได้หรือยัง?

“เรายังไม่มีคุยกันเรื่องนี้ แต่สุดท้ายแล้วถ้าใช้คำนี้เมื่อไหร่ผมจะเป็นคนพูดเอง แต่ถ้าถามว่าทำไมยังไม่ใช้คำว่าแฟนสักที ก็เหมือนที่ผมเคยบอกมันจะมีบางประเด็นที่เราอยากให้มันชัดเจนจริงๆ เมื่อประเด็นนั้นเคลียร์แล้วจริงๆ แล้วเราไม่อยากสร้างความกดดันในทางอ้อมหรือทางตรง ให้กับใครก็แล้วแต่ที่จะได้รับผลกระทบ แต่ขอให้เชื่อเถอะว่าเราก็อยากไปถึงจุดนั้น (ยิ้ม)”

ผลบอลพรีเมียร์ลีก แมนซิตี้ แซงชนะ แมนยู 3-1 โฟเด้น เบิ้ล

“โยเกิร์ต” มูฟออน! ลบเกลี้ยงทุกอย่างเกี่ยว “พีเค” ด้านนางแบบเวียดนามเคลื่อนไหว หลังถูกเอี่ยวดราม่า

กยศ.คืนเงินลูกหนี้ 3,494 ราย 97 ล้านบาท หลังใช้เกณฑ์คำนวณหนี้ใหม่

By admin